ประกาศกระทรวงการต่างประเทศเรื่องกรอบแนวทางป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน

ประกาศกระทรวงการต่างประเทศเรื่องกรอบแนวทางป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน

วันที่นำเข้าข้อมูล 18 ก.ค. 2561

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 25 พ.ย. 2565

| 4,828 view

กระทรวงการต่างประเทศได้ประกาศกรอบแนวทางการป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน เพื่อให้ข้าราชการและบุคลากรทุกประเภทยึดถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน และเป็นการเสริมสร้างค่านิยมและสร้างทัศนคติที่ถูกต้อง โดยตั้งอยู่บนหลักการความปลอดจากการทุจริตในการปฏิบัติงาน การเสริมสร้างวัฒนธรรมสุจริตในองค์กร และการส่งเสริมคุณธรรมการทำงานในหน่วยงาน โดยกรอบแนวทางการป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อน มีดังนี้

๑. ห้ามเป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ ดำเนินคดี หรือมีอำนาจประการอื่นใดในโครงการนั้น

๒. ห้ามเป็นหุ้นส่วนหรือถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่เข้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้มีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจสอบ ดำเนินคดี หรือมีอำนาจประการอื่นใดในโครงการนั้น

๓. ห้ามรับสัมปทานหรือคงถือไว้ซึ่งสัมปทานจากรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเข้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานข้างต้นอันมีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอน ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม หรือเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าว

๔. ห้ามเข้าไปมีส่วนได้เสียในฐานะเป็นกรรมการ ที่ปรึกษา ตัวแทน พนักงานหรือลูกจ้างในธุรกิจของเอกชน ซึ่งโดยสภาพของผลประโยชน์ของธุรกิจของเอกชนนั้นอาจขัดหรือแย้งต่อประโยชน์ส่วนรวม หรือประโยชน์ทางราชการ หรือกระทบต่อความมีอิสระในการปฏิบัติหน้าที่

๕. ให้หน่วยงานต้นสังกัดกำกับดูแลให้ข้าราชการและบุคลากรที่ปฏิบัติงานจัดซื้อจัดจ้างให้ยึดถือกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ หากเกิดข้อสงสัย ให้คำนึงถึงเจตนารมณ์ของกฎหมายเป็นหลัก และไม่ใช้ช่องว่างของกฎหมายในการเอื้อประโยชน์แก่ตนหรือพวกพ้อง

๖. ให้หน่วยงานต้นสังกัดกำกับดูแลข้าราชการและบุคลากรทุกประเภทให้ปฏิบัติตามกรอบแนวทางข้างต้นอย่างเคร่งครัด และขอให้รายงานผลการดำเนินการตามกรอบแนวทางนี้ให้ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตหรือ ศปท. (สำนักบริหารบุคคล) เป็นระยะ ๆ เพื่อเป็นข้อมูลให้กระทรวงฯ ใช้พิจารณากำหนดแนวทางที่เหมาะสมต่อไป

โดยสามารถดูรายละเอียดประกาศกระทรวงการต่างประเทศ และเอกสาร ตามไฟล์ที่แนบมาด้านล่างนี้

เอกสารประกอบ

news-20180719-111050-995572.pdf